การไม่ดูความดันลมยาง อาทิ
– ไม่มีการวัดความดันลมยางเลยเป็นเวลานาน ความดันลมยางอาจลดลง เนื่องจากการซึม
– การเติมลดยางโดยกะประมาณจากสายตา ความดันลมยางอาจสูงกว่าที่เหมาะสมมากเกินไป
– เปลี่ยนยางมาใหม่ หรือถอดยางเพื่อปะซ่อม เจอช่างชุ่ย ไม่ได้ความดันลมยางให้
หลังจากประกอบเสร็จ ความดันลมยางอาจสูงปี๊ด ถึงกว่า 50 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ถ้ามันต่าง 1-2 ปอนด์(ต่อตารางนิ้ว) ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะความดันลมมีโอกาสขึ้นลง
ตามอุณหภูมิการใช้งานอยู่แล้ว
หากวัดลมยางขณะที่ใช้รถวิ่งมาแล้ว เป็นระยะทางมาก ความดันลมยางอาจสูงกว่า
ความดันก่อนวิ่งราว 4 – 6 ปอนด์ หรืออาจมาก หรือน้อยกว่านั้นขึ้นกับความร้อนที่มีในยาง
นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมคู่มือจึงบอกให้ตรวจวัดความดันลมยาง ขณะยางเย็น
แต่หาก วัดความดันลมยางที่บ้าน ได้ 26 ปอนด์ วิ่งไปปั้มระยะทาง 5 กิโลเมตร
ก่อนเติมลม วัดอีกที ได้ 29 ปอนด์ จะเติมเท่าไหร่
เช่นนี้ อาจเติมเผื่อไปได้เช่น เติมถึง 34 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
พรุ่งนี้เช้าก่อนออกจากบ้านก็วัดความดันลมอีกที หากมันสูงกว่าที่ต้องการ ก็ปล่อยมันไปเสีย
ผลเสีย จากการเติมลมยางไม่เหมาะสมเช่น
หากความดันลมยางต่ำกว่าที่ควร
– เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
– มีโอกาสที่ยางจะระเบิด ที่ความเร็วสูง เนื่องจากความร้อนสูงบริเวณไหล่ยาง ซึ่งเกิดจากการบิดตัว
– อายุยางลดลง จากการบิดตัวสูง เนื้อยางไหม้ โครงสร้างยางแยกตัวออกจากกัน
– แก้มยางฉีกขาดหรือหัก เมื่อใช้งานในขณะความดันลมยางต่ำเป็นเวลานาน
และอื่น ๆ
หากความดันลมยางสูงกว่าที่ควร
– เกิดอาการแข็งกระด้าง สูญเสียความนุ่มนวลในการขับขี่
– เสียงดังรุนแรง ขณะกระแทกหลุม หรือ เนินสะดุด หรืออาจร้ายแรงถึงยางระเบิดเมื่อกระแทกอย่างรุนแรง
และอื่น ๆ
ผลของการไม่ดูความดันลมยาง